ตัวอย่าง Best Practice ภาษาไทย

ผู้ดูแลระบบ
26 Dec 2025 15:36
6 ครั้ง
หมวดหมู่: Best Practice แท็ก: best practice ภาษาไทย


ตัวอย่างหัวข้อ: "เทคนิคบันได 5 ขั้น ปั้นนักเขียนรุ่นเยาว์"

รายงานผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ชื่อผลงาน: เทคนิคบันได 5 ขั้น ปั้นนักเขียนรุ่นเยาว์ (การพัฒนาทักษะการแต่งคำประพันธ์ประเภทกลอนแปด) กลุ่มสาระการเรียนรู้: ภาษาไทย ผู้จัดทำ: [ชื่อของคุณ] โรงเรียน [ชื่อโรงเรียนของคุณ]


1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ในการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ "การแต่งคำประพันธ์" นักเรียนมักมีทัศนคติเชิงลบ มองว่าเป็นเรื่องยาก ต้องจำกฎเกณฑ์ (ฉันทลักษณ์) ที่ซับซ้อน และขาดคลังคำศัพท์ในการสื่อสาร ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในหน่วยนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ผู้จัดทำจึงได้คิดค้น "เทคนิคบันได 5 ขั้น" โดยเปลี่ยนจากการสอนแบบบรรยาย มาเป็นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่ค่อยๆ พัฒนาทักษะจากง่ายไปสู่ยาก เพื่อให้นักเรียนเกิดความมั่นใจและสนุกกับการสร้างสรรค์งานเขียน

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

  1. เพื่อให้นักเรียนสามารถแต่งกลอนแปดได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์และมีความไพเราะ

  2. เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทยให้สูงขึ้น

  3. เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีและเห็นคุณค่าของวรรณศิลป์ไทย

  • เป้าหมายเชิงปริมาณ: นักเรียนร้อยละ 80 ผ่านเกณฑ์การประเมินการแต่งกลอนแปดในระดับ "ดี" ขึ้นไป

  • เป้าหมายเชิงคุณภาพ: นักเรียนมีผลงานการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่สามารถเผยแพร่สู่สาธารณะได้


3. ขั้นตอนการดำเนินงาน (กระบวนการ PDCA)

P: Plan (การวางแผน)

  • วิเคราะห์ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง

  • ศึกษาปัญหาจากบันทึกหลังการสอนและผลงานของนักเรียนในปีก่อนหน้า

  • ออกแบบนวัตกรรม "บันได 5 ขั้น" และสื่อการสอน (เช่น บัตรคำแอปพลิเคชัน Canva, Wordwall)

D: Do (การดำเนินงานตามเทคนิคบันได 5 ขั้น)

  1. ขั้นที่ 1: เพลินฟังทำนอง (Foundational Rhythm) – ให้นักเรียนฟังเพลงหรือการอ่านทำนองเสนาะ เพื่อให้คุ้นเคยกับจังหวะของกลอนแปด (3-2-3 หรือ 3-3-3)

  2. ขั้นที่ 2: สะสมคลังคำ (Word Bank) – กิจกรรมเกม "ล่านามหาคำ" ให้นักเรียนรวบรวมคำศัพท์ตามหมวดหมู่เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการเขียน

  3. ขั้นที่ 3: เชื่อมสัมผัส (Rhyme Matching) – ฝึกโยนกลองสัมผัสผ่านใบงานภาพและกิจกรรมกลุ่ม "ต่อคำสัมผัสสระ"

  4. ขั้นที่ 4: เรียงร้อยถ้อยความ (Creative Writing) – ให้นักเรียนเริ่มแต่งกลอนจากหัวข้อที่สนใจ โดยมีครูเป็นโค้ช (Coaching) ให้คำแนะนำรายบุคคล

  5. ขั้นที่ 5: ขัดเกลาผลงาน (Refining & Sharing) – นำงานเขียนมาตรวจความถูกต้อง และให้นักเรียนแลกเปลี่ยนกันอ่านเพื่อวิจารณ์เชิงสร้างสรรค์

C: Check (การตรวจสอบและประเมินผล)

  • ประเมินชิ้นงานโดยใช้ Rubric Score (ความถูกต้อง, ความไพเราะ, ความคิดสร้างสรรค์)

  • ทดสอบหลังเรียนเพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการ

  • ให้นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเทคนิคนี้

A: Act (การปรับปรุงและพัฒนา)

  • สรุปผลการดำเนินงาน หากมีนักเรียนที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ จะจัดกิจกรรม "เพื่อนช่วยเพื่อน" (Peer Tutoring)

  • รวบรวมผลงานที่ดีที่สุดจัดทำเป็น "E-Book กวีน้อยร้อยล้าน" เพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์โรงเรียน


4. ผลสัมฤทธิ์ของงาน

  1. ผลต่อผู้เรียน: นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้น สามารถแต่งกลอนได้เองโดยไม่ต้องลอกผู้อื่น และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

  2. ผลต่อครู: ได้นวัตกรรมการสอนที่เป็นระบบ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแต่งคำประพันธ์ประเภทอื่น (เช่น โคลง กาพย์) ได้

  3. ผลต่อโรงเรียน: มีแหล่งเรียนรู้ (E-Book/บอร์ดนิทรรศการ) ที่แสดงถึงศักยภาพทางวิชาการของนักเรียน

5. บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learned)

การสอนวิชาภาษาไทยให้มีประสิทธิภาพ "ใจต้องนำทาง" หากนักเรียนรู้สึกว่าการเขียนเป็นเรื่องสนุกและเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ (เช่น การแต่งกลอนอวยพรวันเกิดเพื่อน) นักเรียนจะพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็วเกินความคาดหมาย

6. การเผยแพร่และการได้รับการยอมรับ

  • เผยแพร่เทคนิคในที่ประชุม PLC ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

  • จัดแสดงผลงานในวันภาษาไทยแห่งชาติ

  • เผยแพร่ผลงานนักเรียนผ่านเพจ Facebook ของโรงเรียน